เมื่อ 26 ส.ค. 67, 1230 – 1700 ร.ต.อ.ธวัช ปั้นเหน่ง ผบ.มว.(สบ ๑) กก.ตชด.๓๔ (ทนท.รอง ผบ.ร้อยฯ) รรท.ผบ.ร้อย ตชด.๓๔๔ ร่วมกับผบ.ฉก.ทพ.35, ผบ.ร้อย.ทพ.3507, ผบ.ร้อย.ทพ.3508 พร้อมด้วย ชป.กร.305 กกล.นเรศวร ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคง อ.ท่าสองยาง, จนท.ศุลกากรแม่สอด, สภ.ท่าสองยาง, สภ.แม่เมย, ผู้นำท้องถิ่น ต.แม่สอง, ผู้นำท้องถิ่น ต.ท่าสองยาง, หน่วยงานส่วนราชการในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการในพื้นที่ ร่วมกันหารือ/ทำความเข้าใจ ขั้นตอนการปฏิบัติจากกรณีการนำสินค้าส่งข้ามแดนผ่านช่องทางอื่นนอกทางอนุมัติฯ ตามคำสั่งของศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดตาก ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นในพื้นที่ อ.ท่าสองยาง จว.ต.ก. ณ ท่าข้ามที่ 42 (บ้านแม่สลิด) บ.แม่สลิดน้อย ม.3 ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก และช่องทาง/ท่าข้ามชั่วคราว บ.ท่าสองยาง ม.1 ต.ท่าสองยาง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก. โดยมีรายละเอียดการทำความเข้าใจร่วมกันทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1. การนำส่งสินค้าข้ามแดนฯ จะต้องมีการดำเนินการผ่านพิธีการทางศุลกากรทุกรายการ ซึ่งมีการระบุช่องทาง/ท่าข้าม นอกทางอนุมัติฯ ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร 2560 โดยต้องไม่มีการนำส่งสินค้านอกช่องทางอื่นๆ ที่ได้ระบุไว้โดยเด็ดขาด
2. ทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการที่ดำเนินการในพื้นที่ ช่องทาง/ท่าข้าม บ.ท่าสองยาง ในส่วนของการอนุมัติขอเปิดช่องทางฯ โดยรอการอนุมัติจากศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดตาก ให้เรียบร้อยก่อน
3. จนท.ศุลกากรแม่สอด ได้ดำเนินการชี้แจงข้อกฎหมาย/ขั้นตอนการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนด รวมทั้ง ข้อห้ามการนำเข้า/ส่งออกสินค้า และการปฏิบัติในการนำเข้าพืชผลผลิตทางการเกษตรตามวิถีชีวิตฯ
4. การงดนำสินค้าส่งผ่านช่องทาง/ท่าข้าม บ.ท่าสองยางฯ แต่อนุโลมการปฏิบัติในการซื้อสินค้าตามวิถีชีวิตของประชาชนทั้ง 2 ฝั่ง (ไทย/เมียนมาร์) โดยกำหนดให้เป็นจุดตรวจสอบเพียงจุดเดียว ซึ่งหน่วยจะดำเนินการจัด จนท.ดำเนินการตรวจสอบสิ่งผิดกฎหมาย, บันทึกรายการสิ่งของ/จำนวน/ผู้ซื้อสิ่งของโดยละเอียด หากมีการนำเข้า/ส่งออก ผ่านช่องทางธรรมชาติอื่นๆ ในพื้นที่ฯ นอกเขตอนุมัติ/อนุโลม หน่วยงานความมั่นคงจะดำเนินการตามกฎหมาย
5. ขอความร่วมมือผู้นำท้องถิ่น/ท้องที่ ในการช่วยกันประชาสัมพันธ์/ชี้แจงทำความเข้าใจ ผู้ประกอบการ, เจ้าของช่องทาง/ท่าข้าม/ช่องทางธรรมชาติ รวมถึงประชาชนในพื้นที่ทั้ง 2 ฝั่ง ให้ปฏิบัติตามข้อตกลงการประชุมที่ได้กำหนดหนทางร่วมกัน ภายใต้ข้อกฎหมาย พ.รบ.ศุลกากร 2560
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา/ตกลงทำความเข้าใจให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามข้อกฎหมาย พ.ร.บ.ศุลกากร 2560 และเป็นการขับเคลื่อนกำลังภาคประชาชนพิทักษ์ชายแดน